เพื่อประโยชน์ในการติดต่อหรือค้นหาข้อมูล กรุณาอัพเดตข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบัน
สิทธิประโยชน์ที่หน่วยงานของท่านจะได้รับในการเป็นสมาชิกเว็บไซต์ดังนี้: ส่งคำถามโดยตรงไปยังซัพพลายเออร์ โพสต์คำขอของผู้ซื้อ ดูคำขอของผู้ซื้อ สามารถส่งข้อมูลให้ผู้ซื้อโดยตรง สมัครตอนนี้!
-
-
สหสาธารณรัฐแทนซาเนียประกอบด้วยสาธารณรัฐ 2 แห่ง ได้แก่ สาธารณรัฐแทนกานยิกา (Tanganyika) และสาธารณรัฐแซนซิบาร์ (Zanzibar) สาธารณรัฐแทนกานยิกาตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกาอาณาเขตทางด้านเหนือและตะวันออกติดกับเคนยาและยูกันดา รวมทั้งทะเลสาบวิกตอเรีย ทิศตะวันตกติดกับรวันดา บุรุนดี สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และทะเลสาบแทนกานยิกา ทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับแซมเบีย มาลาวี และทะเลสาบมาลาวี ทิศใต้ติดกับโมซัมบิก ทางเหนือมีภูเขาคิลิมันจาโร (Kilimanjaro) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงสุดในทวีปแอฟริกา ส่วนสาธารณรัฐแซนซิบาร์ ประกอบด้วยเกาะแซนซิบาร์และเกาะเพมบา (Pemba) อยู่ห่างจากชายฝั่งของแทนกานยิกา ประมาณ 40 กิโลเมตร
แต่เดิม แทนกานยิกาเป็นอาณานิคมของเยอรมนี ตั้งแต่ปี 2428-2459 (ค.ศ. 1885-1916) ต่อมา แทนกานยิกาได้เข้าเป็นดินแดนในอารักขาของสันนิบาตชาติและสหประชาชาติตามลำดับ โดยทั้งสันนิบาตชาติและสหประชาชาติได้มอบให้อังกฤษดูแลแทนกานยิกามาโดยตลอด จนกระทั่งแทนกานยิกาได้รับเอกราชโดยสมบูรณ์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2504 (ค.ศ. 1961) โดยมีสถานะเป็นสาธารณรัฐภายใต้เครือจักรภพอังกฤษ
สหสาธารณรัฐแทนซาเนียประกอบด้วยสาธารณรัฐ 2 แห่ง ได้แก่ แทนกานยิกา (Tanganyika) และ แซนซิบาร์ (Zanzibar) สาธารณรัฐแทนกานยิกาตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกาอาณาเขตทางด้านเหนือและตะวันออกติดกับเคนยาและยูกันดา รวมทั้งทะเลสาบวิคตอเรีย ทิศตะวันตกติดกับรวันดา บุรุนดี สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และทะเลสาบแทนกานยิกา ทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับแซมเบีย มาลาวี และทะเลสาบมาลาวี ทิศใต้ติดกับโมซัมบิก ทางเหนือมีภูเขาคิลิมันจาโร (Kilimanjaro) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงสุดในทวีปแอฟริกา ส่วนสาธารณรัฐแซนซิบาร์ ประกอบด้วยเกาะแซนซิบาร์และเกาะเพมบา (Pemba) อยู่ห่างจากชายฝั่งของแทนกานยิกา ประมาณ 40 กิโลเมตร
แซนซิบาร์เป็นรัฐสุลต่านภายใต้การอารักขาของอังกฤษ และได้รับเอกราชสมบูรณ์เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2506 (ค.ศ. 1963) ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2507 (ค.ศ.1964) ระบบสุลต่านถูกโค่นล้มโดยการปฏิวัติจากชาวพื้นเมืองแอฟริกัน และเกิดการขับไล่ชาวตะวันตกออกนอกประเทศและสังหารชาวอาหรับนับพันคน แทนกานยิกาและแซนซิบาร์ได้ตกลงรวมตัวกันเป็นสหสาธารณรัฐแทนซาเนียเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2507 (ค.ศ. 1964) โดยแซนซิบาร์มีสถานะเป็นเขตพิเศษกึ่งปกครองตนเองและมีคณะรัฐบาลของตนเองชื่อ Revolutionary Council of Zanzibar
883,749 ตารางกิโลเมตร
-
-
ร้อนชื้น เดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคมเป็นช่วงฤดูฝน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 30 องศาเซลเซียส เดือนมิถุนายน-ตุลาคมอากาศเย็น มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 องศาเซลเซียส
-
-
49.3 ล้านคน (ปี 2557) ประกอบด้วยเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ กว่า 130 เผ่า ซึ่งมีต้นกำเนิดจากเผ่า Bantu แต่ละเผ่ามีภาษาเฉพาะของตนเอง ประชากรในเกาะแซนซิบาร์และเกาะเพมบามีเชื้อสายแอฟริกัน-อาหรับ
-
-
อังกฤษและ Swahili
สาธารณรัฐประชาธิปไตยโดยแบ่งการปกครองออกเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ
กรุงโดโดมา (Dodoma) เป็นที่ตั้งของรัฐบาล ในขณะที่นคร ดาร์ เอส ซาลาม (Dar es Salaam) เป็นเมืองสำคัญที่สุดในประเทศ
26 เมษายน 2507 (เป็นวันที่แทนกานยิกาและแซนซิบาร์ รวมเข้าเป็นสหสาธารณรัฐแทนซาเนีย)
-
ประกอบด้วยประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี และคณะรัฐมนตรี โดยประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ ผู้นำรัฐบาล และผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปี ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน คือ นายยาคายา อึมรีโช คีเควเท (Jakaya Mrisho Kikwete) ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่เดือนธันวาคม 2548 (ค.ศ. 2005) และได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2553 (ค.ศ. 2010) ซึ่งจะเป็นสมัยสุดท้ายตามรัฐธรรมนูญ โดยปกติ หากประธานาธิบดีมาจาก แซนซิบาร์ รองประธานาธิบดีต้องมาจากแทนกานยิกา ในทางกลับกันหากประธานาธิบดีมาจากแทนกานยิกา รองประธานาธิบดีต้องมาจากแซนซิบาร์
-
ระบบรัฐสภาของแทนซาเนียเป็นระบบสภาเดียว เรียกว่า Bunge ฝ่ายนิติบัญญัติเป็นระบบสภาเดียว มีสมาชิกรัฐสภาจำนวน 357 คน โดยสมาชิกรัฐสภามาจากการเลือกตั้งจำนวน 239 คน 5 คน เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแซนซิบาร์ และ 1 คน เป็นอัยการสูงสุด ส่วนที่เหลือ 102 คน เป็นผู้หญิงที่ได้รับการเสนอชื่อโดยประธานาธิบดี และอีก 10 คน เป็นบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี ส่วนแซนซิบาร์ก็มีรัฐสภาเป็นของตนเองต่างหากเพื่อออกกฎหมายในการปกครอง โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 50 คน จากการเลือกตั้งโดยตรงของชาวแซนซิบาร์ และมีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี
ประกอบด้วยศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลสูง ผู้พิพากษามาจากการแต่งตั้งของประธานาธิบดี
เมืองสำคัญอื่นๆ Zanzibar, Mwanza, Tanga, Arusha
รัฐธรรมนูญแทนซาเนียกำหนดให้สาธารณรัฐแซนซิบาร์เป็นอิสระในการบริหารกิจการแซนซิบาร์ทุกประการ ยกเว้นด้านการต่างประเทศ การป้องกันประเทศ การศาล การราชทัณฑ์ และกิจการตำรวจที่รวมกับแทนกานยิกา แทนซาเนียแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 30 เขต ได้แก่ Arusha, Dar es Salaam, Dodoma, Geita, Iringa, Kagera, Kaskazini Pemba (Pemba North), Kaskazini Unguja, (Zanzibar North), Katavi, Kigoma, Kilimanjaro, Kusini Pemba (Pemba South), Kusini Unguja (Zanzibar Central/South), Lindi, Manyara, Mara, Mbeya, Mjini Magharibi (Zanzibar Urban/West), Morogoro, Mtwara, Mwanza, Njombe, Pwani (Coast), Rukwa, Ruvuma, Shinyanga, Simiyu, Singida, Tabora, Tanga
นับตั้งแต่รวมประเทศ แทนซาเนียปกครองโดยระบบพรรคการเมืองเดียวมากว่า 27 ปี จนกระทั่งเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นแบบระบบหลายพรรคในเดือนมิถุนายน 2535 (ค.ศ. 1992) และมีการเลือกตั้งทั่วไปแบบหลายพรรคครั้งแรกในปี 2538 (ค.ศ. 1995)
ปัจจุบัน พรรค Chama Cha Mapinduzi (CCM) ของประธานาธิบดี Kikwete เป็นพรรคการเมืองที่มีอิทธิพลมากที่สุด ประธานาธิบดี Kikwete ได้สร้างฐานอำนาจของตนภายในพรรครัฐบาลให้เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้นโยบายแบบประชานิยม ต่อต้านการทุจริต ปฏิรูประบบเศรษฐกิจและส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตทั้งภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม ในการเลือกตั้งทั่วไปของแทนซาเนียครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2553 (ค.ศ. 2010) ประธานาธิบดี Kikwete ชนะได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 61.1 อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้สนับสนุนฝ่ายค้านประท้วงผลการเลือกตั้งดังกล่าว โดยอ้างว่ากระบวนการเลือกตั้งไม่โปร่งใส แต่ไม่เกิดเหตุรุนแรง ต่อมา ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี Kikwete เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการเคลื่อนไหว และหันมาร่วมมือกัน โดยตนพร้อมที่จะรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายเพื่อพัฒนาแทนซาเนียไปในทิศทางที่ถูกต้อง
ปัจจุบัน คณะกรรมการทบทวนรัฐธรรมนูญแทนซาเนีย (Tanzania's Constitutional Review Commission - CRC) อยู่ระหว่างการพิจารณาเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งประเด็นสำคัญที่เป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง คือ การเสนอให้แทนซาเนียมีระบบ 3 รัฐบาล (Three-tier government system) ประกอบด้วย รัฐบาลแทนซาเนีย (Government of Tanzania) รัฐบาลแทนกายิกา (Government of Tanganyika) และรัฐบาลสหภาพ (Union government) แต่รัฐบาลปัจจุบันภายใต้การนำของประธานาธิบดี Kikwete ไม่เห็นด้วยกับร่างดังกล่าวและสนับสนุนสถานะทางการปกครองแบบเดิม คือ ระบบสองรัฐบาล (two government system) ซึ่งรายงานฉบับล่าสุด (25 เม.ย. 2557) ของ Economist Intelligence Unit (EIU) คาดการณ์ว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวไม่น่าจะได้รับการเห็นชอบและอาจจะต้องตกไป
แทนซาเนียปกครองในระบอบสาธารณรัฐประชาธิปไตยโดยแบ่งการปกครองออกเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้รับการแก้ไขปรับปรุงครั้งสำคัญ 2 ครั้ง ในปี 2527 (ค.ศ. 1984) และ ปี 2537 (ค.ศ. 1994)
แทนซาเนียเป็นประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด นายจูเลียส อึนเยเรเร (Julius Nyerere) ประธานาธิบดีคนแรกภายหลังการประกาศเอกราช เป็นผู้ก่อตั้งสำคัญคนหนึ่งของกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (Non-Aligned Movement – NAM) รัฐบาลแทนซาเนียมีนโยบายเป็นกลาง เป็นมิตรกับทั้งประเทศเจ้าอาณานิคมเดิม (สหราชอาณาจักรและเยอรมนี) ประเทศที่มีนโยบายสังคมนิยม (กลุ่มสแกนดิเนเวีย และจีน) รวมทั้งประเทศผู้ให้ความช่วยเหลือรายใหญ่ (สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น) แทนซาเนียเป็นประเทศที่ผู้ให้ความช่วยเหลือเห็นว่า มีพัฒนาการดี และเป็นผู้รับรายใหญ่ของเงินทุนเพื่อการพัฒนา
แทนซาเนียมีนโยบายเป็นมิตรกับประเทศในภูมิภาคแอฟริกา โดยส่งเสริมและกระชับความร่วมมือในระดับภูมิภาค และองค์กรสหภาพแอฟริกา (African Union - AU) แทนซาเนียยังมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เคนยา และยูกันดา โดยทั้งสามประเทศได้ร่วมก่อตั้งประชาคมแอฟริกาตะวันออก (East African Community - EAC) เมื่อปี 2542 (ค.ศ. 1999) นอกจากนี้ แทนซาเนียเป็นสมาชิก EAC ประเทศเดียวที่เป็นสมาชิกประชาคมเพื่อการพัฒนาแอฟริกาตอนใต้ (Southern African Development Community - SADC) ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ ปัจจุบัน รัฐบาลแทนซาเนียมีนโยบายมองตะวันออก (Look-East Policy) โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มประเทศในทวีปเอเชียมากขึ้น เนื่องจากวิกฤตทางการเงินในสหรัฐอเมริกาและยุโรปทำให้แทนซาเนียเล็งเห็นศักยภาพทางการเงินและการลงทุนของเอเชีย ซึ่งมีเสถียรภาพทางการเงินสูง
แต่เดิม แทนซาเนียใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ต่อมา ช่วงต้นทศวรรษที่ 90 (2533-2543) รัฐบาลจึงได้ริเริ่มการกระตุ้นการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ ปฏิรูปรัฐวิสาหกิจที่มีประสิทธิภาพต่ำ โดยให้ภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการแทน โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากกองทุนการเงินระหว่าง ประเทศ (International Monetary Fund - IMF) และธนาคารโลก (World Bank) ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจมีความเป็นเสรีมากขึ้น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงขึ้นเรื่อย ๆ และมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน แทนซาเนียวางนโยบายเศรษฐกิจภายใต้กรอบ Poverty Reduction and Growth Facility (PRGF) ของ IMF นอกจากนี้ แทนซาเนียอยู่ในกลุ่มประเทศ Heavily Indebted Poor Countries (HIPC) ของ IMF และธนาคารโลก ซึ่งได้รับประโยชน์เป็นเงินทุนเพื่อการช่วยเหลือและการยกเลิกหนี้ (debt relief) โดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศ G8 ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศผู้ให้รายใหญ่ในภูมิภาคแอฟริกา
รัฐบาลแทนซาเนียให้ความสำคัญกับการกระจายฐานการผลิตสู่ภาคอุตสาหกรรม และดำเนินนโยบายเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ แต่การพัฒนาอุตสาหกรรมในแทนซาเนียยังล้าหลัง เนื่องจากปัญหา การขาดแคลนวัตถุดิบและพลังงาน โดยทั่วไปเป็นอุตสาหกรรมในท้องถิ่น และอุตสาหกรรมทดแทนการนำเข้า โรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นของรัฐ และเป็นการผลิตเพื่อการบริโภคภายในประเทศ
แทนซาเนียมีศักยภาพทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง เนื่องจากการเมืองมีเสถียรภาพและมีทรัพยากรทางธรรมชาติมาก อาทิ แร่ธาตุ อัญมณี และก๊าซธรรมชาติ นอกจากนี้ รัฐบาลแทนซาเนียมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว และได้ตั้งศูนย์ส่งเสริมการลงทุน (Tanzania Investment Centre) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติด้วย สาขาการค้าการลงทุนที่มีศักยภาพ ได้แก่ เหมืองแร่และอัญมณี การก่อสร้าง การแปรรูปผลิตผลทางเกษตร และธุรกิจท่องเที่ยว
114.28 ล้าน USD (ไทยส่งออก 100.31 ล้าน USD ไทยนำเข้า 13.97 ล้าน USD ไทยได้ดุลการค้า 86.34 ล้าน USD)
บริษัท SCT เปิดสำนักงานที่นคร Dar es Salaam บริษัท CPF ทำธุรกิจฟาร์มไก่ อิตัลไทยร่วมทุนธุรกิจเหมืองแร่
32.292 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ (2556)
1,615.00 ดอลล่าร์สหรัฐ (2556)
ร้อยละ 7.1 (2556)
ร้อยละ 8.0 (2556)
4.343 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ (2556)
-
-
-
แปรรูปสินค้าเกษตร (น้ำตาล เบียร์ บุหรี่ สายป่านจากพืช) เหมืองเพชร ทองแดง เหล็ก ถ่านหิน เกลือ โซดาไฟ ซีเมนต์ กลั่นน้ำมัน รองเท้า เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์จากไม้ ปุ๋ย
-
-
-
-
-
น้ำตาลทราย เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ เครื่องนุ่งห่ม เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ
-
สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง วัตถุดิบในอุตสาหกรรม น้ำมันดิบ
ชิลลิงแทนซาเนีย (TZS) 1 บาท = 50.02 TZS ( สถานะ 11 ธันวาคม 2556)
TZS
เปรูมีนโยบายเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม มุ่งเน้นการเปิดเสรีทางการค้าและเศรษฐกิจ การแปรรูปหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ปรับปรุงและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบภาษี ปรับลดภาษีนำเข้าผ่านทางการเปิดเสรีทั้งในระดับภูมิภาคภายใต้กรอบประชาคมแอนเดียน (ANDEAN Community) และ ตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง (MERCOSUR) และการทำความตกลงการค้าเสรีทวิภาคี (FTA) กับประเทศต่างๆ ทั้งในลาตินอเมริกาและเอเชีย
เศรษฐกิจของเปรูในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก โดยมีภาคการส่งออก โดยเฉพาะสินค้าประมงและแร่ธาตุ และการลงทุนภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เป็นปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญ ในปี 2552 รัฐบาลเปรูได้อัดฉีดงบประมาณจำนวน 3.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การสร้างที่อยู่อาศัย ระบบน้ำปะปา ถนน ท่าเรือ และท่าอากาศยาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความยากจนในประเทศลดลงต่อเนื่องสี่ปี โดยล่าสุด เมื่อปี 2552 ความยากจนในเปรู คิดเป็นร้อยละ 34.8
กองพัฒนาผู้ประกอบการไทย
เลขที่ 555 ถนนวิภาวดีรังสิต
แขวงจตุจักร เขตจตุจักร
กรุงเทพมหานคร 10900