เพื่อประโยชน์ในการติดต่อหรือค้นหาข้อมูล กรุณาอัพเดตข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบัน
สิทธิประโยชน์ที่หน่วยงานของท่านจะได้รับในการเป็นสมาชิกเว็บไซต์ดังนี้: ส่งคำถามโดยตรงไปยังซัพพลายเออร์ โพสต์คำขอของผู้ซื้อ ดูคำขอของผู้ซื้อ สามารถส่งข้อมูลให้ผู้ซื้อโดยตรง สมัครตอนนี้!
-
สาธารณรัฐมอริเชียส หรือ Republic of Mauritius
ชาวยุโรปกลุ่มแรกที่เดินทางมาถึงเกาะมอริเชียสได้แก่ชาวโปรตุเกส ซึ่งเดินทางเข้ามาในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ต่อมาเมื่อปี ค.ศ. 1598 นักแล่นเรือชาวเนเธอร์แลนด์ได้เดินทางมาถึงเกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่งในมหาสมุทรอินเดียและได้ตั้งชื่อว่ามอริเชียส(Mauritius) ตามชื่อของ Prince Maurice de Nassau ประมุขของพวกตน ชาวเนเธอร์แลนด์จึงเป็นกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งรกรากในเกาะแห่งนี้ และเป็นผู้นำอ้อยเข้ามาปลูกในมอริเชียสก่อนที่จะย้ายออกไปเมื่อปี ค.ศ. 1710 และอีก 5 ปีต่อมา บริษัทอินเดียตะวันออกของฝรั่งเศส (French East India Company) ได้เข้ามายึดครองเกาะมอริเชียสพร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น "Isle de France" ต่อมาได้สถาปนา Port Louis (ตั้งชื่อตามพระนามของพระเจ้า Louis ที่ 15) เป็นเมืองหลวงของมอริเชียส การค้าได้เจริญเติบโตขึ้นตั้งแต่นั้นมา โดยมอริเชียสสามารถจัดส่งน้ำตาลและเหล้ารัม (rum) ให้แก่เกาะรอบ ๆ และเรือที่มาเยือนได้อย่างเพียงพอ ในปี ค.ศ. 1810 อังกฤษได้เข้าครอบครองมอริเชียสต่อจากฝรั่งเศส และทั้งสองฝ่ายได้ลงนามสนธิสัญญาปารีส (The Treaty of Paris) เมื่อปี ค.ศ. 1814 เพื่อเป็นการยืนยันการครอบครองมอริเชียสของอังกฤษอย่างสมบูรณ์ จนกระทั่งได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1868 ซึ่งถือว่าเป็นวันชาติมอริเชียสในปัจจุบัน มอริเชียสได้รับเอกราชและเข้าเป็นสมาชิกของเครือจักรภพอังกฤษเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1968 โดยมีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ เป็นองค์ประมุขและมีผู้สำเร็จราชการ (Governor - General) เป็นผู้แทนพระองค์ประจำอยู่ที่มอริเชียส โดยกำหนดให้ประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐแทน มอริเชียสเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1992 โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขแห่งรัฐ
มอริเชียสเป็นสมาชิกองค์การระหว่างประเทศที่สำคัญต่าง ๆ เช่น สหประชาชาติ สหภาพ แอฟริกา (African Union - AU) ตลาดร่วมแอฟริกาตะวันออกและใต้ (Common Market for Eastern and Southern Africa - COMESA) ประชาคมเพื่อการพัฒนาภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ (Southern African Development Community - SADC) คณะกรรมาธิการร่วมมหาสมุทรอินเดีย (Indian Ocean Commission - IOC) และมอริเชียสเป็นประเทศหนึ่งในประเทศผู้ริเริ่มให้มีการก่อตั้งสมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย (Indian Ocean Rim - Association for Regional Cooperation IOR - ARC) ซึ่งมุ่งที่จะส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคในบรรดาประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2546 ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในมอริเชียส โดย Sir Anerood Jugnauth ได้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของมอริเชียส เพื่อเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีและประมุขแห่งรัฐคนใหม่ของมอริเชียส ในวันที่ 7 ตุลาคม 2546 สืบต่อจากนาย Karl Offman ทั้งนี้ นาย Paul Berenger รองนายกรัฐมนตรี ได้เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือผู้นำรัฐบาลแทน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2546
การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าวในมอริเชียส เป็นความตกลงระหว่างพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2543 ซึ่ง Sir Anerood Jugnauth หัวหน้าพรรค Mauritian Socialist Movement (MSM) ได้ตกลงไว้ว่าจะสละตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้แก่ นาย Paul Berenger รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค Mauritian Militant Movement (MMM) เมื่อเหลือระยะเวลาการบริหารประเทศอีก 2 ปี การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งทางการเมืองครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของมอริเชียสที่มีการถ่ายโอนอำนาจการบริหารประเทศระหว่างพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล
เมื่อเดือนเมษายน 2548 นาย Paul Berenger นายกรัฐมนตรีมอริเชียสได้ประกาศยุบสภาและกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 3 กรกฎาคม 2548 ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า พรรคฝ่ายค้าน Social Alliance ชนะการเลือกตั้ง ได้ที่นั่ง 38 ที่นั่งจาก 62 ที่นั่งในรัฐสภา ส่งผลให้นายแพทย์ Navinchandra Ramgoolam ผู้นำพรรค Social Alliance ซึ่งเคยเป็นนายกรัฐมนตรีมอริเชียสระหว่างปี 2538-2543 ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีมอริเชียสคนใหม่
การเมืองภายในมอริเชียสไม่มีลักษณะที่พรรคการเมืองใดผูกขาดอำนาจทางการเมืองเป็นเวลานาน นอกจากนี้ พรรคการเมืองต่าง ๆ ในมอริเชียสต่างมีนโยบายด้านเศรษฐกิจที่เหมือนกัน คือ การพัฒนาเศรษฐกิจในแนวทางทุนนิยม ความร่วมมือระหว่างพรรคการเมืองต่าง ๆ ดังกล่าว โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ ทำให้มอริเชียสมีระบบเศรษฐกิจที่แข็งแรง ทั้งนี้ รัฐบาลมอริเชียสมีเป้าประสงค์ที่จะพัฒนาประเทศตามรูปแบบของประเทศสิงคโปร์ อาทิ การพัฒนาท่าเรือเสรี การบริการด้านเงินกู้ต่างประเทศ (offshore banking financial service) การพัฒนาฐานการผลิต และการปรับปรุงอุตสาหกรรมพื้นฐานของประเทศให้ทันสมัย
เป็นประเทศเกาะ ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากฝั่ง ตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกาประมาณ 2,400 กิโลเมตร และห่างจากประเทศมาดากัสการ์ประมาณ 800 กิโลเมตร ละติจูดที่ 20 17 องศาใต้ ลองติจูดที่ 57 33 องศาตะวันออก
2,040 ตารางกิโลเมตร รวมเกาะเล็กๆ อีก 3 เกาะ เข้าด้วยกัน คือ เกาะ Agalega เกาะ Cargados Carajos Shoals (Saint Brandon) และเกาะ Rodrigues มีแนวชายฝั่งยาว 177 กิโลเมตร
-
ที่ราบชายฝั่งขนาดเล็กค่อยๆ ชันขึ้นเป็นภูเขาล้อมรอบที่ราบตอนกลาง
อากาศเขตร้อน มีลมการค้าตะวันออกเฉียงใต้พัดผ่าน ฤดูหนาวอากาศแห้งแล้ง (เดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน) ช่วงฤดูร้อนอากาศร้อน ชื้น และมีฝนตก (พฤศจิกายน-พฤษภาคม)
พื้นที่เพาะปลูก ปลา
พายุไซโคลน (เดือนพฤศจิกายน-เมษายน)
1,322,238 คน (ค่าประมาณ เดือนกรกฏคมคม พ.ศ. 2556)
0.68% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2556)
Mauritian (s)
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ นอกจากนี้ ยังมีภาษาคริโอล ฝรั่งเศส ฮินดี อูรดู ฮักกา และโบจปูรี (Bhojpoori)
สาธารณรัฐ (Republic) โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข แห่งรัฐ ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐสภา (National Assembly) มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี และนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร และได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี
กรุงพอร์ตหลุยส์ (Port Louis)
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2511 (ค.ศ. 1968)
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2511 (ค.ศ. 1968) แก้ไขปรับปรุงวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992)
ประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐ ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐสภา (National Assembly) มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี และนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร และได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี ประธานาธิบดีเป็นผู้แต่งตั้งคณะรัฐบาลตามคำแนะนำของนายกรัฐมนตรี การเลือกตั้งครั้งต่อไปมีขึ้นในปี 2013
มีรากฐานมาจากประมวลกฎหมายของฝรั่งเศส (French Civil Law System) ประกอบกับกฎหมายจารีตประเพณีอังกฤษ (English Common Law) ในบางกรณี ยอมรับเขตอำนาจโดยบังคับของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) โดยมีการสงวนสิทธิ์บางประการ
ระบบสภาเดียว (Unicameral National Assembly) สมาชิก 70 ที่นั่ง 62 ที่นั่งมาจากการเลือกตั้ง 8 ที่นั่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อให้เป็นตัวแทนชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่ม มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี การเลือกตั้งครั้งต่อไปจะมีขึ้นในปี 2010
ระบบศาลฎีกา (Supreme Court)
9 เขต (districts) และ 3 เขตในอาณัติ (dependencies) ได้แก่ (1.) Black River (2.) Flacq (3.) Grand Port (4.) Moka (5.) Pamplemousses (6) Plaines Wilhems (7.) Port Louis (8.) Riviere du Rempart (9.) Savanne 3 เขตในอาณัติ ได้แก่ (1.) Agalega Islands (2.) Cargados Carajos Shoals (3.) Rodrigues
20.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555)
15,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555)
3.4% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555)
4.7% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555)
8% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555)
-
อ้อย ชา ข้าวโพด มันฝรั่ง เมล็ดพืชประเภทถั่ว ปศุสัตว์ แพะ
แปรรูปอาหาร (ส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานน้ำตาล) สิ่งทอ เสื้อผ้า ทำเหมือง เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์จากเหล็ก อุปกรณ์การขนส่ง เครื่องมือที่ไม่ใช่เครื่องไฟฟ้า การท่องเที่ยว
3.3% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2553)
-
-
ขาดดุล 1.433 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555)
2.631 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ f.o.b (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555)
น้ำตาล กากน้ำตาล เสื้อผ้าและสิ่งทอ ดอกไม้ตัด
5.111 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ f.o.b (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555)
สินค้าอุตสาหกรรม เครื่องประกอบการพื้นฐาน ผลิตภัณฑ์ อาหาร น้ำมัน และผลิตภัณฑ์เคมี
มอริเชียสรูปี (Mauritian rupee - MUR)
MUR
ตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี 2511 มอริเชียสได้พัฒนาจากประเทศที่มีรายได้ต่ำ และเน้นเกษตรกรรม เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจหลากหลาย และมีรายได้ปานกลาง โดยภาคอุตสาหกรรม การเงิน และการท่องเที่ยวมีการเจริญเติบโต และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับร้อยละ 5 ถึงร้อยละ 6 เป็นส่วนใหญ่ ความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจจะเห็นได้จากการเฉลี่ยรายได้อย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น ประชากรมีอายุยืนยาวมากขึ้น อัตราการตายของทารกต่ำลง และโครงสร้างพื้นฐานที่มีการปรับปรุงขึ้นอย่างมาก พื้นที่ประมาณร้อยละ 90 ใช้ในการปลูกอ้อย ซึ่งเป็นรายได้จากการส่งออกถึงร้อยละ 25
ยุทธศาสตร์การพัฒนาที่สำคัญของประเทศซึ่งมุ่งไปที่การลงทุนจากต่างประเทศ เป็นการช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งส่งผลให้มอริเชียสมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจล้ำหน้ากว่าประเทศอื่น ๆ ในทวีปแอฟริกา โดยมอริเชียสสามารถดึงดูดบริษัทต่างชาติกว่า 9,000 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งค้าขายกับอินเดียและแอฟริกาใต้ และการลงทุนเฉพาะในภาคธนาคารอย่างเดียวสูงถึงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในขณะนี้ มีธุรกิจให้บริการด้านการเงินจากต่างประเทศประมาณ 18,000 บริษัท เปิดกิจการอยู่ในมอริเชียส และจากการที่มอริเชียสมีภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอที่แข็งแกร่งและการบริหารการเงินที่ดี ทำให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากพระราชบัญญัติ Africa Growth and Opportunity Act (AGOA) ของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมอริเชียสยังเห็นว่า อุตสาหกรรมสิ่งทอ และอ้อยและน้ำตาล ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานดั้งเดิมของประเทศ ไม่สามารถสร้างงานและรายได้ให้แก่ชาวมอริเชียสได้เพียงพอ รัฐบาลจึงเน้นการพัฒนาสาขาเทคโนโยลีสารสนเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนามอริเชียสให้เป็นเกาะแห่งคอมพิวเตอร์ (cyber island) รัฐบาลกำลังกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศในด้านเทคโนโลยีข่าวสาร โดยมีโครงการลงทุนก่อสร้าง "cyber city" มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับธุรกิจสื่อสารและคอมพิวเตอร์ในมอริเชียสด้วย
ในส่วนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้น มอริเชียสเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากเดินทางไปมอริเชียส ส่งผลให้รัฐบาลสามารถดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ ด้านการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
ปัญหาอัตราการว่างงานเป็นปัญหาสังคมที่สำคัญประการหนึ่งของมอริเชียส แม้ว่าในปีที่ผ่านมาอัตราการจ้างงานได้เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากการลงทุนจากต่างชาติ ได้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ในมอริเชียสมากยิ่งขึ้น แต่จำนวนคนงานที่ทำงานในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมในท้องถิ่นยังคงมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า แรงงานไร้ฝีมือของมอริเชียสจะประสบปัญหาว่างงานมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต
ไทยกับมอริเชียสสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2522 โดยไทยได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย มีเขตอาณาครอบคลุมมอริเชียส และนาย Andrew Sek Sum เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำมอริเชียส ส่วนฝ่ายมอริเชียสได้มอบหมายให้ สถานเอกอัครราชทูตมอริเชียสประจำประเทศมาเลเซียมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทย จากข้อมูลที่ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรียเมื่อเดือนมีนาคม 2549 มีคนไทยที่อาศัยอยู่ในมอริเชียสจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 25 คน โดยส่วนใหญ่มีอาชีพแม่บ้านและกิจการร้านอาหาร
มอริเชียสสนับสนุนไทยในเวทีระหว่างประเทศเสมอมา โดยได้สนับสนุนไทยในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกสมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย (Indian Ocean Rim - Association for Regional Cooperation : IOR - ARC) ซึ่งมอริเชียสเป็นหนึ่งในประเทศผู้ริเริ่มให้มีการก่อตั้งสมาคมดังกล่าว
มูลค่าการค้าระหว่างไทยและมอริเชียสตั้งแต่ปี 2546-2549 เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยไทย เป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้าตลอดมา ในปี 2549 การค้าระหว่างไทย-มอริเชียสมีมูลค่าทั้งสิ้น 1,970 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าการส่งออกของไทยคิดเป็น 1,820.1 ล้านบาท และมูลค่าการนำเข้าเท่ากับ 149.9 ล้านบาท สินค้าออกสำคัญของไทยไปมอริเชียส ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก ผ้าผืน สำหรับสินค้าหลักที่ไทยนำเข้าจากมอริเชียส ได้แก่ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็งและแปรรูป เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ สินแร่โลหะ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ไทยได้ยกระดับส่วนแยกฯ เป็นสถานกงสุลใหญ่ โดยมีเขตอาณาครอบคลุมมาดากัสการ์ และแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์1 ตำแหน่ง เพื่อช่วยงานด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน อนึ่ง การแลกเปลี่ยนการเยือนที่สำคัญ ๆ มีดังนี้
ที่มา: กองแอฟริกา กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศ
รายการ | 2553 | 2554 | 2555 | 2555(ม.ค.-ก.ย.) | 2556(ม.ค.-ก.ย.) |
---|---|---|---|---|---|
ไทย - โลก | |||||
มูลค่าการค้า | 376,225.26 | 451,358.90 | 479,224.06 | 357,766.36 | 361,953.68 |
การส่งออก | 193,298.14 | 222,579.16 | 229,236.13 | 172,056.49 | 172,139.76 |
การนำเข้า | 182,927.12 | 228,779.74 | 249,987.93 | 185,709.88 | 189,813.92 |
ดุลการค้า | 10,371.02 | -6,200.58 | -20,751.80 | -13,653.39 | -17,674.16 |
ไทย - มอริเชียส | |||||
มูลค่าการค้า | 134.41 | 103.04 | 97.67 | 73.69 | 73.89 |
การส่งออก | 125.83 | 96.07 | 89.14 | 66.41 | 69.09 |
การนำเข้า | 8.59 | 6.97 | 8.52 | 7.29 | 4.79 |
ดุลการค้า | 117.24 | 89.10 | 80.62 | 59.12 | 64.30 |
ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร
อันดับที่ | ชื่อสินค้า | 2553 | 2554 | 2555 | 2555 (ม.ค.-พ.ย.) | 2556 (ม.ค.-พ.ย.) |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | น้ำตาลทราย | 3.3 | 8.2 | 9.2 | 8.2 | 13.3 |
2 | เม็ดพลาสติก | 8.4 | 11.9 | 13.0 | 11.2 | 10.4 |
3 | รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ | 9.0 | 3.5 | 5.2 | 4.9 | 7.1 |
4 | ของเบ็ดเตล็ดทำด้วยโลหะสามัญ | 6.9 | 7.3 | 6.6 | 6.4 | 5.9 |
5 | กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ | 2.9 | 3.1 | 3.8 | 3.4 | 4.4 |
6 | เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ | 4.8 | 6.2 | 4.9 | 4.7 | 3.9 |
7 | เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ | 3.2 | 6.5 | 7.2 | 7.2 | 3.3 |
8 | เส้นใยประดิษฐ์ | 2.7 | 3.1 | 3.5 | 3.5 | 2.7 |
9 | เครื่องนุ่งห่ม | 1.6 | 1.8 | 2.4 | 2.4 | 2.6 |
10 | ผ้าผืน | 7.9 | 5.2 | 3.2 | 3.1 | 2.5 |
รวม 10 รายการ | 50.9 | 56.8 | 59.1 | 55.0 | 56.2 | |
อื่นๆ | 74.9 | 39.3 | 30.1 | 28.4 | 29.4 | |
รวมทั้งสิ้น | 125.8 | 96.1 | 89.1 | 83.3 | 85.7 |
ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร
อันดับที่ | ชื่อสินค้า | 2553 | 2554 | 2555 | 2555(ม.ค.-พ.ย.) | 2556(ม.ค.-พ.ย.) |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่ง | 4.9 | 2.6 | 3.3 | 3.3 | 3.7 |
2 | เสื้อผ้าสำเร็จรูป | 0.6 | 1.0 | 1.3 | 1.2 | 1.3 |
3 | เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ | - | - | 0.3 | 0.2 | 0.6 |
4 | เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ | 1.0 | 0.5 | 1.2 | 1.1 | 0.4 |
5 | สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ | 0.7 | 1.6 | 1.6 | 1.5 | 0.3 |
6 | เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ | 0.4 | 0.8 | 0.3 | 0.3 | 0.3 |
7 | แผงวงจรไฟฟ้า | - | - | 0.1 | - | 0.2 |
8 | เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การ | 0.1 | 0.1 | 0.1 | 0.1 | 0.2 |
9 | เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ | 0.1 | - | 0.1 | - | 0.1 |
10 | เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด | - | - | 0.1 | - | - |
รวม 10 รายการ | 7.8 | 6.6 | 8.4 | 7.9 | 7.1 | |
อื่นๆ | 0.8 | 0.4 | 0.1 | 0.1 | 0.1 | |
รวมทั้งสิ้น | 8.6 | 7.0 | 8.5 | 8.0 | 7.2 |
ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร
ที่อยู่
The Embassy of the Republic of Mauritius
17th Floor West Block,
Wisma Selangor Dredging,
Jalan Ampang, 50450 Kuala Lumpur,
Malaysia
Tel: (603) 2163-6301, 2163-6306
Fax: (603) 2163-6294
E-mail: maurhckl@streamyx.com
กองพัฒนาผู้ประกอบการไทย
เลขที่ 555 ถนนวิภาวดีรังสิต
แขวงจตุจักร เขตจตุจักร
กรุงเทพมหานคร 10900